Cute Press x BBQ Plaza – Enjoy Thailand’s Favorite BBQ Meals Worry-free with Cute Press Bye Bye Smell Series (Thai)
“อยากกินปิ้งย่าง ชาบู แต่ก็ไม่อยากมีกลิ่นติดตัว”   เชื่อว่าหนึ่งในปัญหาใหญ่สำหรับคนที่นิยมกินอาหารประเภทปิ้งย่างหรือชาบูคือเรื่องของ ‘กลิ่น’ เพราะหลังจากมื้ออร่อยแล้ว สิ่งที่จะติดตัวคุณหลังออกจากร้านคือกลิ่นจากอาหาร คนส่วนใหญ่จึงหลีกเลี่ยงการกินช่วงกลางวัน และมักเลือกกินปิ้งย่างช่วงเย็นหรือหลังเลิกงานที่ไม่จำเป็นต้องเข้างานหรือมีธุระต่อ   แต่ข้อจำกัดดังกล่าวกำลังจะหมดไป เพราะ Cute Press ในฐานะแบรนด์เครื่องสำอางที่คนไทยคุ้นเคย และผู้เชี่ยวชาญด้านความงามที่ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์ในเขตอากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทยมากว่า 45 ปี กำลังจับมือกับแบรนด์ปิ้งย่างขวัญใจชาวไทยอย่าง Bar B Q Plaza เพื่อแก้ปัญหาที่ว่าภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ทำให้ทุกคนกินปิ้งย่างได้ทุกเวลา ไม่จำกัดแค่ตอนเย็น และยังเสริมความมั่นใจได้ว่าจะไม่มีกลิ่นติดตัว สามารถไปทำอย่างอื่นต่อได้ ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง ‘Bye Bye Smell Hair and Body Mist’ ภายใต้แคมเปญ Cute Press X Bar B Q Plaza ซึ่งถูกคิดค้นมาเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าวในรูปแบบของ ‘สเปรย์’ ที่ใช้ง่าย พกพาสะดวก แถมราคายังเป็นมิตร   THE STANDARD มีโอกาสพูดคุยกับ สรลักขณ์ จุนเกียรติ Brand Communication Director Cute Press กับการร่วมมือในครั้งนี้ของทั้งสองแบรนด์ที่เรียกได้ว่าอยู่คนละอุตสาหกรรม แต่สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้า เพื่อส่งมอบทั้ง ‘ความสุข’ และ ‘ความมั่นใจ’ ให้กับลูกค้าได้ โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์แบบชาวไทย และกลยุทธ์การสื่อสารแบบ ‘Brand Collaboration’ ที่นอกจากจะสนุกแล้วยังช่วยแก้ปัญหาให้กับคนไทยได้จริง   – อยากให้ช่วยเล่าประวัติความเป็นมาของแบรนด์ Cute Press แบบคร่าวๆ รวมถึงจุดเด่นของแบรนด์ และการอยู่เคียงข้างคนไทยมาอย่างยาวนาน ย้อนกลับไปประมาณ 45 ปีที่แล้ว ยังไม่มีสินค้าที่เป็นเครื่องสำอางแบรนด์ไทยมากนักหากเทียบกับสมัยนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์จากเมืองนอก ผู้ก่อตั้งก็มองว่าทำไมเราถึงไม่มีสินค้าไทยที่คุณภาพดีและตอบโจทย์คนไทย จึงพยายามแสวงหาสูตรเครื่องสำอางที่คุณภาพระดับสากลแต่เหมาะกับผิวคนไทยและอากาศเมืองร้อน โดยการเดินทางไปตามโรงงานเครื่องสำอางชั้นนำในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และญี่ปุ่น เพื่อสร้างสรรค์แบรนด์ขึ้นมา กระทั่งเกิดมาเป็นสินค้าตัวแรกคือแป้งพัฟฟ์ ซึ่งเป็นแป้งแต่งหน้าของผู้หญิง จนมาถึงปัจจุบัน เวลาถามใครว่ารู้จัก Cute Press ไหม ทุกคนก็จะนึกถึงแป้งก่อน แล้วแบรนด์ผ่านผู้ใช้มาหลายรุ่นมาก มีแป้งตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ Cute Press กำเนิดมาจากแป้งหนึ่งตลับ และโตมาเป็นสินค้ามากกว่า 500 SKU ในปัจจุบัน   และด้วยความที่แบรนด์อยู่มานาน ก็จะมีลูกค้าที่ใช้สินค้า รู้จักแบรนด์ รักแบรนด์ และยังใช้ต่อจนทุกวันนี้ เมื่อก่อนเป็นเด็ก ตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่ และส่งต่อให้รุ่นลูกใช้ด้วย เพราะรู้สึกว่าเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงง่าย มีคุณภาพ และราคาจับต้องได้ง่าย   – จุดเด่นของแบรนด์ Cute Press ในมุมของคุณคืออะไร พอ Cute Press เดินทางมา 45 ปี องค์ความรู้เราค่อนข้างเยอะ ข้อมูลทั้งหมดเรามีการทำวิจัยและสำรวจ Customer Insight ตลอด เพราะเรามีลูกค้าเป็นฐานสมาชิกมากกว่า 3 ล้านคน ทุกครั้งที่ลูกค้าซื้อของ เราจะมีการสำรวจว่าลูกค้าพึงพอใจอะไร ไม่ชอบอะไร มีไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร และเอามาวิเคราะห์เพื่อตอบโจทย์ว่าจะสามารถพัฒนาสินค้าเสริมไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างไร   นอกจากนี้ Cute Press ที่อยู่ภายใต้เครือ SSUP ยังมีทีมวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) ที่ก่อตั้งมามากกว่า 30 ปี จนทุกวันนี้มีนักวิจัยรวมกว่า 50 คน ที่ทำงานใกล้ชิดกับฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของแบรนด์และหน่วยวิจัยการตลาด เลยทำให้เรามีองค์ความรู้ด้วย มีทีมวิจัยด้วย มีโรงงานผลิตด้วย และมีร้านค้าเป็นของตัวเองกว่า 270 สาขาทั่วประเทศ ค่อนข้างครบองค์ประกอบ ซึ่งองค์ความรู้ที่ทีมเรามีทำให้เราเป็นแบรนด์ที่เข้าใจคนไทยมากว่าแต่ละวันไลฟ์สไตล์คนไทยต้องเจออะไรบ้าง ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ของแบรนด์ก็เป็นคนไทย เวลาเขาฟีดแบ็กจึงเป็นสิ่งที่เขาพบเจอจริงในชีวิต   ต้องยอมรับว่าบ้านเราเป็นเขตอากาศร้อนชื้น มันจึงก่อให้เกิดเหงื่อจากความร้อน ฝุ่นควัน แถมหน้ามัน พอเราได้ข้อมูลจริงๆ จากผู้ใช้มา ก็นำมาพัฒนาต่อเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์คนที่อาศัยอยู่ในเขตร้อนชื้นได้ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า   – อยากให้ขยายความถึงกลยุทธ์ของแบรนด์ที่มุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบเพื่อการใช้ชีวิตในพื้นที่ร้อนชื้น หรือ Life in Tropics ความเข้าใจของเราไม่ใช่แค่ผิวเผิน แต่ต้องเข้าใจแบบเจาะลึก เพราะเวลาเราไปทดสอบตัวสินค้า ซึ่งปกติจะมีทั้งการทดสอบในห้องแล็บ แต่ Cute Press ทดสอบจากการใช้ชีวิตจริงด้วย เพราะเรารู้ว่าลูกค้าไม่ได้อยู่แค่ในห้องแอร์และลูกค้าเราค่อนข้างกว้าง รวมถึงมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันมาก แต่สิ่งหนึ่งคือเขาต้องออกไปเผชิญความร้อน ความชื้น ฝุ่น ควัน มลภาวะ ต้องขึ้นบีทีเอสที่คนเยอะๆ นั่งมอเตอร์ไซค์ ใส่หมวกกันน็อก นั่งรอรถเมล์ร้อนๆ หรือทำงานที่ไม่ได้อยู่ในห้องแอร์ เขาก็ต้องรู้สึกว่า เอ๊ะฉันมีกลิ่นเหงื่อ มีกลิ่นตัว หน้ามัน ซึ่งไม่มีใครอยากดูไม่ดี เราดึงอินไซต์จากผู้ใช้จริงๆ และลงไปทดสอบในสนามจริงว่าสินค้าที่เราพัฒนามันผ่านไหม ถ้าไม่ผ่านก็ต้องกลับมาพัฒนาจนกว่าจะผ่าน   ดังนั้นลูกค้าส่วนใหญ่ที่ใช้สินค้า Cute Press ก็เป็นลูกค้าที่เป็นแฟนคลับ ใช้มาเป็นเวลานาน เพราะรู้สึกว่าแบรนด์ตอบโจทย์เขา มีการควบคุมคุณภาพ พอใช้แล้วแก้ปัญหาได้จริงๆ นั่นเพราะเราเป็นแบรนด์ที่อยากสร้างความมั่นใจ สร้างความสุขในการทำให้ลูกค้าทุกคนมั่นใจที่จะออกไปใช้ชีวิตได้   – กลยุทธ์ดังกล่าวอาจไม่ได้จำกัดแค่ในประเทศไทย แต่รวมถึงประเทศที่มีพื้นที่อากาศใกล้เคียงกับไทยด้วยใช่ไหม ถูกต้อง เพราะความจริง Cute Press ก็มีตลาดต่างประเทศที่ไปเปิดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเมียนมา กัมพูชา สิงคโปร์ แบรนด์มองเป้าหมายไว้ในกลุ่มโซนประเทศที่มีสภาพอากาศคล้ายประเทศไทย เพราะรู้สึกว่าเราเข้าใจไลฟ์สไตล์คนในเขตนี้ดี และมีสูตรของตัวเองที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคนเขตนี้ได้จริง   – ที่มาที่ไปของผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Cute Press ‘Bye Bye Smell Hair and Body Mist’ เป็นอย่างไร และไอเดียเรื่องการกินปิ้งย่างแต่ไม่อยากให้มีกลิ่นติดตัวมาได้อย่างไร ต้องเล่าว่าพอแบรนด์ Cute Press โดดเด่นในเรื่องของการทำสินค้าสำหรับคนที่อยู่ใน Tropical Lifestyle เราก็พบ Pain Point จากกลุ่มลูกค้าว่านอกจากเรื่องหน้ามัน อุดตันง่าย เมกอัพละลาย เรื่องกลิ่นก็เป็นปัจจัยที่บั่นทอนความมั่นใจเช่นกัน เพราะการอยู่ในเขตอากาศร้อนชื้นทำให้มีกลิ่นเหงื่อง่าย มันเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องเจอทุกวัน เช่น พนักงานออฟฟิศที่ต้องออกไปทานข้าวตอนกลางวัน กลับมาก็อาจจะมีเหงื่อออก มีกลิ่นอาหารติดตัว ไปนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างแล้วต้องสวมหมวกกันน็อกที่ใช้มาแล้วไม่รู้กี่คน พอจะไปทำงานต่อหัวจะมีกลิ่นไหม ผมจะเหม็นหรือเปล่า หรือตอนขึ้นรถเมล์ ขึ้นรถไฟฟ้าไปทำงาน คนเบียดกัน เหงื่อออกก็มีกลิ่น ดังนั้นสินค้าที่ตอบโจทย์เรื่องการป้องกันกลิ่นจึงน่าสนใจ และเป็นการแก้ Pain Point สำคัญของลูกค้าเราได้   ทีนี้จากการสำรวจเราพบว่าปัจจุบันคนไทยชอบออกไปกินข้าวนอกบ้าน ซึ่งร้านอาหารที่คนชอบคือปิ้งย่าง ชาบู ซึ่งปัญหาที่คนชอบกินปิ้งย่างหรือชาบูพบก็คือเขาไม่อยากกินตอนกลางวันเพราะกลัวเรื่องกลิ่น แล้วจะไปทำงานต่อไม่ได้ ทีมพัฒนาของเราก็เลยคิดว่าทำไมต้องมีขอบเขตสำหรับเรื่องการกินปิ้งย่างหรือชาบู มันจึงเกิดเป็นสินค้าในซีรีส์นี้ขึ้นมา เป็นสเปรย์ฉีดผมและผิวที่เราคอลแลบกับ Bar B Q Plaza   – อย่างที่บอกว่าไลฟ์สไตล์คนไทยมักเจอกับเรื่องกลิ่นในรูปแบบต่างๆ ทั้งการกินอาหารประเภทปิ้งย่าง อาหารที่มีกลิ่น หรือการใช้ชีวิตประจำวัน ผลิตภัณฑ์ ‘Bye Bye Smell Hair and Body Mist’ จะช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้ดีขึ้นอย่างไรบ้าง อย่างที่เล่าว่าปัญหานี้อยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน สามารถติดตัวไว้ใช้ได้ตลอด ตอนเช้าผจญฝุ่นควันก่อนมาถึงออฟฟิศ เริ่มรู้สึกว่าตัวไม่หอมก็ฉีดได้ ตอนกลางวันอยากกินปิ้งย่าง หยิบขวดหนึ่งไปพร้อมกันก็ได้   เราอยากบอกว่าผลิตภัณฑ์ ‘Bye Bye Smell Hair and Body Mist’ ได้รับการทดสอบจากทีมงานจริงด้วย คือเราให้ทีมที่พัฒนาสินค้าไปกินปิ้งย่างจริง แล้วก็ใช้สเปรย์จริง แก้ไขจนกว่าจะกลบกลิ่นได้ หรืออย่างเรื่องการสวมหมวกกันน็อกเวลานั่งวินมอเตอร์ไซค์ ทีมงานก็ต้องไปจำลองการใช้ชีวิตจริงๆ ของคนทั่วไปว่าในหนึ่งวันใช้ชีวิตอย่างไร เจออะไรบ้าง   ผลิตภัณฑ์เราค่อนข้างตอบโจทย์ทุกเพศ ทุกวัย ใครก็ใช้ได้ ตัวผลิตภัณฑ์ออกแบบมาให้ไม่ใหญ่มาก พกพาได้ มันจะมีเทคโนโลยี Odor Clear กำจัดกลิ่น และมีเทคโนโลยี Scent Lock ที่จะให้ความหอมติดทนยาวนาน 48 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีวิตามินและออยล์ต่างๆ ที่ช่วยบำรุงผมและผิวไปด้วย   – สิ่งที่น่าสนใจคือการได้มาจับมือกับ Bar B Q Plaza การร่วมมือกันครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง เราดีใจและภูมิใจมาก เพราะทั้ง Cute Press และ Bar B Q Plaza เป็นแบรนด์ไทยเพื่อคนไทยเหมือนกัน แล้ว Bar B Q Plaza ค่อนข้างเป็นผู้นำในตลาดอาหาร ทุกคนต้องเคยผ่านการกินมาในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง แล้วทั้งสองแบรนด์อยู่มานานเหมือนกัน มีสาขาค่อนข้างเยอะ เราจึงมองว่ามันค่อนข้างเป็นกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ทั้งคู่ เพราะ Cute Press ก็ช่วยแก้ Pain Point ให้คนกินปิ้งย่างว่าสามารถกินเมื่อไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นวันหยุดหรือตอนเย็นเท่านั้น และลูกค้า Bar B Q Plaza ก็ได้มารู้จักกับ Cute Press ด้วยว่าเรามีสินค้าความหอมที่ตอบโจทย์ให้ทานปิ้งย่างแล้วเดินออกจากร้านอย่างมั่นใจได้ ฉะนั้นในเชิงกลุ่มเป้าหมาย ทั้งสองแบรนด์ถือว่าคอลแลบกันอยู่แล้ว   นอกจากนี้ทั้งสองแบรนด์ก็มีคาแรกเตอร์ที่เข้ากัน Bar B Q Plaza ก็จะสร้างความสุขและเป็นแบรนด์ที่มีมูฟเมนต์ในตลาด หรือในเชิงของการทำแบรนดิ้ง มีเมสเสจออกมาที่อยากทำให้คนที่มาทานอาหารมีความสุข ซึ่งก็ตรงกับสิ่งที่ Cute Press อยากสร้างความสุข อยากสร้างโมเมนต์ดีๆ ให้กับทุกคน เพื่อสร้างความมั่นใจให้คนออกไปใช้ชีวิตในเขตอากาศร้อนชื้นอย่างมีความสุข   – แผนการในอนาคตของแบรนด์ในแง่ของการจับมือกับแบรนด์อื่นๆ เพื่อพัฒนาสินค้าตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สะดวกสบายมากขึ้นของคนไทยต่อไปเป็นอย่างไร การจับมือกับ Bar B Q Plaza ในครั้งนี้ เหมือนเป็นจุดสตาร์ทในการทำงานกับแบรนด์อื่นที่ไม่ใช่แบรนด์บิวตี้ ซึ่งก็ค่อนข้างใหม่และน่าจะเซอร์ไพรส์กลุ่มลูกค้าเหมือนกัน เรามองว่าในเชิงการตลาดมันเป็นมูฟเมนต์ที่ดีในการร่วมมือกับแบรนด์ที่อาจไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน แต่สามารถสร้างสรรค์ให้เกิดสิ่งใหม่และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าของทั้งคู่ ดังนั้นอนาคตก็จะมีการทำงานร่วมกับแบรนด์อื่นแน่ๆ แต่จะออกมาเป็นแนวไหน หรือเป็นสินค้าอะไร อยากให้ติดตามกันอีกที
จบปัญหาอยากกินแต่ไม่อยากมีกลิ่น
จบปัญหาอยากกินแต่ไม่อยากมีกลิ่น
จบปัญหาอยากกินแต่ไม่อยากมีกลิ่น
“อยากกินปิ้งย่าง ชาบู แต่ก็ไม่อยากมีกลิ่นติดตัว”   เชื่อว่าหนึ่งในปัญหาใหญ่สำหรับคนที่นิยมกินอาหารประเภทปิ้งย่างหรือชาบูคือเรื่องของ ‘กลิ่น’ เพราะหลังจากมื้ออร่อยแล้ว สิ่งที่จะติดตัวคุณหลังออกจากร้านคือกลิ่นจากอาหาร คนส่วนใหญ่จึงหลีกเลี่ยงการกินช่วงกลางวัน และมักเลือกกินปิ้งย่างช่วงเย็นหรือหลังเลิกงานที่ไม่จำเป็นต้องเข้างานหรือมีธุระต่อ   แต่ข้อจำกัดดังกล่าวกำลังจะหมดไป เพราะ Cute Press ในฐานะแบรนด์เครื่องสำอางที่คนไทยคุ้นเคย และผู้เชี่ยวชาญด้านความงามที่ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์ในเขตอากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทยมากว่า 45 ปี กำลังจับมือกับแบรนด์ปิ้งย่างขวัญใจชาวไทยอย่าง Bar B Q Plaza เพื่อแก้ปัญหาที่ว่าภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ทำให้ทุกคนกินปิ้งย่างได้ทุกเวลา ไม่จำกัดแค่ตอนเย็น และยังเสริมความมั่นใจได้ว่าจะไม่มีกลิ่นติดตัว สามารถไปทำอย่างอื่นต่อได้ ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง ‘Bye Bye Smell Hair and Body Mist’ ภายใต้แคมเปญ Cute Press X Bar B Q Plaza ซึ่งถูกคิดค้นมาเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าวในรูปแบบของ ‘สเปรย์’ ที่ใช้ง่าย พกพาสะดวก แถมราคายังเป็นมิตร   THE STANDARD มีโอกาสพูดคุยกับ สรลักขณ์ จุนเกียรติ Brand Communication Director Cute Press กับการร่วมมือในครั้งนี้ของทั้งสองแบรนด์ที่เรียกได้ว่าอยู่คนละอุตสาหกรรม แต่สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้า เพื่อส่งมอบทั้ง ‘ความสุข’ และ ‘ความมั่นใจ’ ให้กับลูกค้าได้ โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์แบบชาวไทย และกลยุทธ์การสื่อสารแบบ ‘Brand Collaboration’ ที่นอกจากจะสนุกแล้วยังช่วยแก้ปัญหาให้กับคนไทยได้จริง   – อยากให้ช่วยเล่าประวัติความเป็นมาของแบรนด์ Cute Press แบบคร่าวๆ รวมถึงจุดเด่นของแบรนด์ และการอยู่เคียงข้างคนไทยมาอย่างยาวนาน ย้อนกลับไปประมาณ 45 ปีที่แล้ว ยังไม่มีสินค้าที่เป็นเครื่องสำอางแบรนด์ไทยมากนักหากเทียบกับสมัยนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์จากเมืองนอก ผู้ก่อตั้งก็มองว่าทำไมเราถึงไม่มีสินค้าไทยที่คุณภาพดีและตอบโจทย์คนไทย จึงพยายามแสวงหาสูตรเครื่องสำอางที่คุณภาพระดับสากลแต่เหมาะกับผิวคนไทยและอากาศเมืองร้อน โดยการเดินทางไปตามโรงงานเครื่องสำอางชั้นนำในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และญี่ปุ่น เพื่อสร้างสรรค์แบรนด์ขึ้นมา กระทั่งเกิดมาเป็นสินค้าตัวแรกคือแป้งพัฟฟ์ ซึ่งเป็นแป้งแต่งหน้าของผู้หญิง จนมาถึงปัจจุบัน เวลาถามใครว่ารู้จัก Cute Press ไหม ทุกคนก็จะนึกถึงแป้งก่อน แล้วแบรนด์ผ่านผู้ใช้มาหลายรุ่นมาก มีแป้งตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ Cute Press กำเนิดมาจากแป้งหนึ่งตลับ และโตมาเป็นสินค้ามากกว่า 500 SKU ในปัจจุบัน   และด้วยความที่แบรนด์อยู่มานาน ก็จะมีลูกค้าที่ใช้สินค้า รู้จักแบรนด์ รักแบรนด์ และยังใช้ต่อจนทุกวันนี้ เมื่อก่อนเป็นเด็ก ตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่ และส่งต่อให้รุ่นลูกใช้ด้วย เพราะรู้สึกว่าเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงง่าย มีคุณภาพ และราคาจับต้องได้ง่าย   – จุดเด่นของแบรนด์ Cute Press ในมุมของคุณคืออะไร พอ Cute Press เดินทางมา 45 ปี องค์ความรู้เราค่อนข้างเยอะ ข้อมูลทั้งหมดเรามีการทำวิจัยและสำรวจ Customer Insight ตลอด เพราะเรามีลูกค้าเป็นฐานสมาชิกมากกว่า 3 ล้านคน ทุกครั้งที่ลูกค้าซื้อของ เราจะมีการสำรวจว่าลูกค้าพึงพอใจอะไร ไม่ชอบอะไร มีไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร และเอามาวิเคราะห์เพื่อตอบโจทย์ว่าจะสามารถพัฒนาสินค้าเสริมไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างไร   นอกจากนี้ Cute Press ที่อยู่ภายใต้เครือ SSUP ยังมีทีมวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) ที่ก่อตั้งมามากกว่า 30 ปี จนทุกวันนี้มีนักวิจัยรวมกว่า 50 คน ที่ทำงานใกล้ชิดกับฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของแบรนด์และหน่วยวิจัยการตลาด เลยทำให้เรามีองค์ความรู้ด้วย มีทีมวิจัยด้วย มีโรงงานผลิตด้วย และมีร้านค้าเป็นของตัวเองกว่า 270 สาขาทั่วประเทศ ค่อนข้างครบองค์ประกอบ ซึ่งองค์ความรู้ที่ทีมเรามีทำให้เราเป็นแบรนด์ที่เข้าใจคนไทยมากว่าแต่ละวันไลฟ์สไตล์คนไทยต้องเจออะไรบ้าง ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ของแบรนด์ก็เป็นคนไทย เวลาเขาฟีดแบ็กจึงเป็นสิ่งที่เขาพบเจอจริงในชีวิต   ต้องยอมรับว่าบ้านเราเป็นเขตอากาศร้อนชื้น มันจึงก่อให้เกิดเหงื่อจากความร้อน ฝุ่นควัน แถมหน้ามัน พอเราได้ข้อมูลจริงๆ จากผู้ใช้มา ก็นำมาพัฒนาต่อเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์คนที่อาศัยอยู่ในเขตร้อนชื้นได้ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า   – อยากให้ขยายความถึงกลยุทธ์ของแบรนด์ที่มุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบเพื่อการใช้ชีวิตในพื้นที่ร้อนชื้น หรือ Life in Tropics ความเข้าใจของเราไม่ใช่แค่ผิวเผิน แต่ต้องเข้าใจแบบเจาะลึก เพราะเวลาเราไปทดสอบตัวสินค้า ซึ่งปกติจะมีทั้งการทดสอบในห้องแล็บ แต่ Cute Press ทดสอบจากการใช้ชีวิตจริงด้วย เพราะเรารู้ว่าลูกค้าไม่ได้อยู่แค่ในห้องแอร์และลูกค้าเราค่อนข้างกว้าง รวมถึงมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันมาก แต่สิ่งหนึ่งคือเขาต้องออกไปเผชิญความร้อน ความชื้น ฝุ่น ควัน มลภาวะ ต้องขึ้นบีทีเอสที่คนเยอะๆ นั่งมอเตอร์ไซค์ ใส่หมวกกันน็อก นั่งรอรถเมล์ร้อนๆ หรือทำงานที่ไม่ได้อยู่ในห้องแอร์ เขาก็ต้องรู้สึกว่า เอ๊ะฉันมีกลิ่นเหงื่อ มีกลิ่นตัว หน้ามัน ซึ่งไม่มีใครอยากดูไม่ดี เราดึงอินไซต์จากผู้ใช้จริงๆ และลงไปทดสอบในสนามจริงว่าสินค้าที่เราพัฒนามันผ่านไหม ถ้าไม่ผ่านก็ต้องกลับมาพัฒนาจนกว่าจะผ่าน   ดังนั้นลูกค้าส่วนใหญ่ที่ใช้สินค้า Cute Press ก็เป็นลูกค้าที่เป็นแฟนคลับ ใช้มาเป็นเวลานาน เพราะรู้สึกว่าแบรนด์ตอบโจทย์เขา มีการควบคุมคุณภาพ พอใช้แล้วแก้ปัญหาได้จริงๆ นั่นเพราะเราเป็นแบรนด์ที่อยากสร้างความมั่นใจ สร้างความสุขในการทำให้ลูกค้าทุกคนมั่นใจที่จะออกไปใช้ชีวิตได้   – กลยุทธ์ดังกล่าวอาจไม่ได้จำกัดแค่ในประเทศไทย แต่รวมถึงประเทศที่มีพื้นที่อากาศใกล้เคียงกับไทยด้วยใช่ไหม ถูกต้อง เพราะความจริง Cute Press ก็มีตลาดต่างประเทศที่ไปเปิดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเมียนมา กัมพูชา สิงคโปร์ แบรนด์มองเป้าหมายไว้ในกลุ่มโซนประเทศที่มีสภาพอากาศคล้ายประเทศไทย เพราะรู้สึกว่าเราเข้าใจไลฟ์สไตล์คนในเขตนี้ดี และมีสูตรของตัวเองที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคนเขตนี้ได้จริง   – ที่มาที่ไปของผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Cute Press ‘Bye Bye Smell Hair and Body Mist’ เป็นอย่างไร และไอเดียเรื่องการกินปิ้งย่างแต่ไม่อยากให้มีกลิ่นติดตัวมาได้อย่างไร ต้องเล่าว่าพอแบรนด์ Cute Press โดดเด่นในเรื่องของการทำสินค้าสำหรับคนที่อยู่ใน Tropical Lifestyle เราก็พบ Pain Point จากกลุ่มลูกค้าว่านอกจากเรื่องหน้ามัน อุดตันง่าย เมกอัพละลาย เรื่องกลิ่นก็เป็นปัจจัยที่บั่นทอนความมั่นใจเช่นกัน เพราะการอยู่ในเขตอากาศร้อนชื้นทำให้มีกลิ่นเหงื่อง่าย มันเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องเจอทุกวัน เช่น พนักงานออฟฟิศที่ต้องออกไปทานข้าวตอนกลางวัน กลับมาก็อาจจะมีเหงื่อออก มีกลิ่นอาหารติดตัว ไปนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างแล้วต้องสวมหมวกกันน็อกที่ใช้มาแล้วไม่รู้กี่คน พอจะไปทำงานต่อหัวจะมีกลิ่นไหม ผมจะเหม็นหรือเปล่า หรือตอนขึ้นรถเมล์ ขึ้นรถไฟฟ้าไปทำงาน คนเบียดกัน เหงื่อออกก็มีกลิ่น ดังนั้นสินค้าที่ตอบโจทย์เรื่องการป้องกันกลิ่นจึงน่าสนใจ และเป็นการแก้ Pain Point สำคัญของลูกค้าเราได้   ทีนี้จากการสำรวจเราพบว่าปัจจุบันคนไทยชอบออกไปกินข้าวนอกบ้าน ซึ่งร้านอาหารที่คนชอบคือปิ้งย่าง ชาบู ซึ่งปัญหาที่คนชอบกินปิ้งย่างหรือชาบูพบก็คือเขาไม่อยากกินตอนกลางวันเพราะกลัวเรื่องกลิ่น แล้วจะไปทำงานต่อไม่ได้ ทีมพัฒนาของเราก็เลยคิดว่าทำไมต้องมีขอบเขตสำหรับเรื่องการกินปิ้งย่างหรือชาบู มันจึงเกิดเป็นสินค้าในซีรีส์นี้ขึ้นมา เป็นสเปรย์ฉีดผมและผิวที่เราคอลแลบกับ Bar B Q Plaza   – อย่างที่บอกว่าไลฟ์สไตล์คนไทยมักเจอกับเรื่องกลิ่นในรูปแบบต่างๆ ทั้งการกินอาหารประเภทปิ้งย่าง อาหารที่มีกลิ่น หรือการใช้ชีวิตประจำวัน ผลิตภัณฑ์ ‘Bye Bye Smell Hair and Body Mist’ จะช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้ดีขึ้นอย่างไรบ้าง อย่างที่เล่าว่าปัญหานี้อยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน สามารถติดตัวไว้ใช้ได้ตลอด ตอนเช้าผจญฝุ่นควันก่อนมาถึงออฟฟิศ เริ่มรู้สึกว่าตัวไม่หอมก็ฉีดได้ ตอนกลางวันอยากกินปิ้งย่าง หยิบขวดหนึ่งไปพร้อมกันก็ได้   เราอยากบอกว่าผลิตภัณฑ์ ‘Bye Bye Smell Hair and Body Mist’ ได้รับการทดสอบจากทีมงานจริงด้วย คือเราให้ทีมที่พัฒนาสินค้าไปกินปิ้งย่างจริง แล้วก็ใช้สเปรย์จริง แก้ไขจนกว่าจะกลบกลิ่นได้ หรืออย่างเรื่องการสวมหมวกกันน็อกเวลานั่งวินมอเตอร์ไซค์ ทีมงานก็ต้องไปจำลองการใช้ชีวิตจริงๆ ของคนทั่วไปว่าในหนึ่งวันใช้ชีวิตอย่างไร เจออะไรบ้าง   ผลิตภัณฑ์เราค่อนข้างตอบโจทย์ทุกเพศ ทุกวัย ใครก็ใช้ได้ ตัวผลิตภัณฑ์ออกแบบมาให้ไม่ใหญ่มาก พกพาได้ มันจะมีเทคโนโลยี Odor Clear กำจัดกลิ่น และมีเทคโนโลยี Scent Lock ที่จะให้ความหอมติดทนยาวนาน 48 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีวิตามินและออยล์ต่างๆ ที่ช่วยบำรุงผมและผิวไปด้วย   – สิ่งที่น่าสนใจคือการได้มาจับมือกับ Bar B Q Plaza การร่วมมือกันครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง เราดีใจและภูมิใจมาก เพราะทั้ง Cute Press และ Bar B Q Plaza เป็นแบรนด์ไทยเพื่อคนไทยเหมือนกัน แล้ว Bar B Q Plaza ค่อนข้างเป็นผู้นำในตลาดอาหาร ทุกคนต้องเคยผ่านการกินมาในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง แล้วทั้งสองแบรนด์อยู่มานานเหมือนกัน มีสาขาค่อนข้างเยอะ เราจึงมองว่ามันค่อนข้างเป็นกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ทั้งคู่ เพราะ Cute Press ก็ช่วยแก้ Pain Point ให้คนกินปิ้งย่างว่าสามารถกินเมื่อไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นวันหยุดหรือตอนเย็นเท่านั้น และลูกค้า Bar B Q Plaza ก็ได้มารู้จักกับ Cute Press ด้วยว่าเรามีสินค้าความหอมที่ตอบโจทย์ให้ทานปิ้งย่างแล้วเดินออกจากร้านอย่างมั่นใจได้ ฉะนั้นในเชิงกลุ่มเป้าหมาย ทั้งสองแบรนด์ถือว่าคอลแลบกันอยู่แล้ว   นอกจากนี้ทั้งสองแบรนด์ก็มีคาแรกเตอร์ที่เข้ากัน Bar B Q Plaza ก็จะสร้างความสุขและเป็นแบรนด์ที่มีมูฟเมนต์ในตลาด หรือในเชิงของการทำแบรนดิ้ง มีเมสเสจออกมาที่อยากทำให้คนที่มาทานอาหารมีความสุข ซึ่งก็ตรงกับสิ่งที่ Cute Press อยากสร้างความสุข อยากสร้างโมเมนต์ดีๆ ให้กับทุกคน เพื่อสร้างความมั่นใจให้คนออกไปใช้ชีวิตในเขตอากาศร้อนชื้นอย่างมีความสุข   – แผนการในอนาคตของแบรนด์ในแง่ของการจับมือกับแบรนด์อื่นๆ เพื่อพัฒนาสินค้าตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สะดวกสบายมากขึ้นของคนไทยต่อไปเป็นอย่างไร การจับมือกับ Bar B Q Plaza ในครั้งนี้ เหมือนเป็นจุดสตาร์ทในการทำงานกับแบรนด์อื่นที่ไม่ใช่แบรนด์บิวตี้ ซึ่งก็ค่อนข้างใหม่และน่าจะเซอร์ไพรส์กลุ่มลูกค้าเหมือนกัน เรามองว่าในเชิงการตลาดมันเป็นมูฟเมนต์ที่ดีในการร่วมมือกับแบรนด์ที่อาจไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน แต่สามารถสร้างสรรค์ให้เกิดสิ่งใหม่และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าของทั้งคู่ ดังนั้นอนาคตก็จะมีการทำงานร่วมกับแบรนด์อื่นแน่ๆ แต่จะออกมาเป็นแนวไหน หรือเป็นสินค้าอะไร อยากให้ติดตามกันอีกที
“อยากกินปิ้งย่าง ชาบู แต่ก็ไม่อยากมีกลิ่นติดตัว”   เชื่อว่าหนึ่งในปัญหาใหญ่สำหรับคนที่นิยมกินอาหารประเภทปิ้งย่างหรือชาบูคือเรื่องของ ‘กลิ่น’ เพราะหลังจากมื้ออร่อยแล้ว สิ่งที่จะติดตัวคุณหลังออกจากร้านคือกลิ่นจากอาหาร คนส่วนใหญ่จึงหลีกเลี่ยงการกินช่วงกลางวัน และมักเลือกกินปิ้งย่างช่วงเย็นหรือหลังเลิกงานที่ไม่จำเป็นต้องเข้างานหรือมีธุระต่อ   แต่ข้อจำกัดดังกล่าวกำลังจะหมดไป เพราะ Cute Press ในฐานะแบรนด์เครื่องสำอางที่คนไทยคุ้นเคย และผู้เชี่ยวชาญด้านความงามที่ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์ในเขตอากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทยมากว่า 45 ปี กำลังจับมือกับแบรนด์ปิ้งย่างขวัญใจชาวไทยอย่าง Bar B Q Plaza เพื่อแก้ปัญหาที่ว่าภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ทำให้ทุกคนกินปิ้งย่างได้ทุกเวลา ไม่จำกัดแค่ตอนเย็น และยังเสริมความมั่นใจได้ว่าจะไม่มีกลิ่นติดตัว สามารถไปทำอย่างอื่นต่อได้ ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง ‘Bye Bye Smell Hair and Body Mist’ ภายใต้แคมเปญ Cute Press X Bar B Q Plaza ซึ่งถูกคิดค้นมาเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าวในรูปแบบของ ‘สเปรย์’ ที่ใช้ง่าย พกพาสะดวก แถมราคายังเป็นมิตร   THE STANDARD มีโอกาสพูดคุยกับ สรลักขณ์ จุนเกียรติ Brand Communication Director Cute Press กับการร่วมมือในครั้งนี้ของทั้งสองแบรนด์ที่เรียกได้ว่าอยู่คนละอุตสาหกรรม แต่สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้า เพื่อส่งมอบทั้ง ‘ความสุข’ และ ‘ความมั่นใจ’ ให้กับลูกค้าได้ โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์แบบชาวไทย และกลยุทธ์การสื่อสารแบบ ‘Brand Collaboration’ ที่นอกจากจะสนุกแล้วยังช่วยแก้ปัญหาให้กับคนไทยได้จริง   – อยากให้ช่วยเล่าประวัติความเป็นมาของแบรนด์ Cute Press แบบคร่าวๆ รวมถึงจุดเด่นของแบรนด์ และการอยู่เคียงข้างคนไทยมาอย่างยาวนาน ย้อนกลับไปประมาณ 45 ปีที่แล้ว ยังไม่มีสินค้าที่เป็นเครื่องสำอางแบรนด์ไทยมากนักหากเทียบกับสมัยนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์จากเมืองนอก ผู้ก่อตั้งก็มองว่าทำไมเราถึงไม่มีสินค้าไทยที่คุณภาพดีและตอบโจทย์คนไทย จึงพยายามแสวงหาสูตรเครื่องสำอางที่คุณภาพระดับสากลแต่เหมาะกับผิวคนไทยและอากาศเมืองร้อน โดยการเดินทางไปตามโรงงานเครื่องสำอางชั้นนำในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และญี่ปุ่น เพื่อสร้างสรรค์แบรนด์ขึ้นมา กระทั่งเกิดมาเป็นสินค้าตัวแรกคือแป้งพัฟฟ์ ซึ่งเป็นแป้งแต่งหน้าของผู้หญิง จนมาถึงปัจจุบัน เวลาถามใครว่ารู้จัก Cute Press ไหม ทุกคนก็จะนึกถึงแป้งก่อน แล้วแบรนด์ผ่านผู้ใช้มาหลายรุ่นมาก มีแป้งตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ Cute Press กำเนิดมาจากแป้งหนึ่งตลับ และโตมาเป็นสินค้ามากกว่า 500 SKU ในปัจจุบัน   และด้วยความที่แบรนด์อยู่มานาน ก็จะมีลูกค้าที่ใช้สินค้า รู้จักแบรนด์ รักแบรนด์ และยังใช้ต่อจนทุกวันนี้ เมื่อก่อนเป็นเด็ก ตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่ และส่งต่อให้รุ่นลูกใช้ด้วย เพราะรู้สึกว่าเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงง่าย มีคุณภาพ และราคาจับต้องได้ง่าย   – จุดเด่นของแบรนด์ Cute Press ในมุมของคุณคืออะไร พอ Cute Press เดินทางมา 45 ปี องค์ความรู้เราค่อนข้างเยอะ ข้อมูลทั้งหมดเรามีการทำวิจัยและสำรวจ Customer Insight ตลอด เพราะเรามีลูกค้าเป็นฐานสมาชิกมากกว่า 3 ล้านคน ทุกครั้งที่ลูกค้าซื้อของ เราจะมีการสำรวจว่าลูกค้าพึงพอใจอะไร ไม่ชอบอะไร มีไลฟ์สไตล์เป็นอย่างไร และเอามาวิเคราะห์เพื่อตอบโจทย์ว่าจะสามารถพัฒนาสินค้าเสริมไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างไร   นอกจากนี้ Cute Press ที่อยู่ภายใต้เครือ SSUP ยังมีทีมวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) ที่ก่อตั้งมามากกว่า 30 ปี จนทุกวันนี้มีนักวิจัยรวมกว่า 50 คน ที่ทำงานใกล้ชิดกับฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของแบรนด์และหน่วยวิจัยการตลาด เลยทำให้เรามีองค์ความรู้ด้วย มีทีมวิจัยด้วย มีโรงงานผลิตด้วย และมีร้านค้าเป็นของตัวเองกว่า 270 สาขาทั่วประเทศ ค่อนข้างครบองค์ประกอบ ซึ่งองค์ความรู้ที่ทีมเรามีทำให้เราเป็นแบรนด์ที่เข้าใจคนไทยมากว่าแต่ละวันไลฟ์สไตล์คนไทยต้องเจออะไรบ้าง ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ของแบรนด์ก็เป็นคนไทย เวลาเขาฟีดแบ็กจึงเป็นสิ่งที่เขาพบเจอจริงในชีวิต   ต้องยอมรับว่าบ้านเราเป็นเขตอากาศร้อนชื้น มันจึงก่อให้เกิดเหงื่อจากความร้อน ฝุ่นควัน แถมหน้ามัน พอเราได้ข้อมูลจริงๆ จากผู้ใช้มา ก็นำมาพัฒนาต่อเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์คนที่อาศัยอยู่ในเขตร้อนชื้นได้ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า   – อยากให้ขยายความถึงกลยุทธ์ของแบรนด์ที่มุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบเพื่อการใช้ชีวิตในพื้นที่ร้อนชื้น หรือ Life in Tropics ความเข้าใจของเราไม่ใช่แค่ผิวเผิน แต่ต้องเข้าใจแบบเจาะลึก เพราะเวลาเราไปทดสอบตัวสินค้า ซึ่งปกติจะมีทั้งการทดสอบในห้องแล็บ แต่ Cute Press ทดสอบจากการใช้ชีวิตจริงด้วย เพราะเรารู้ว่าลูกค้าไม่ได้อยู่แค่ในห้องแอร์และลูกค้าเราค่อนข้างกว้าง รวมถึงมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันมาก แต่สิ่งหนึ่งคือเขาต้องออกไปเผชิญความร้อน ความชื้น ฝุ่น ควัน มลภาวะ ต้องขึ้นบีทีเอสที่คนเยอะๆ นั่งมอเตอร์ไซค์ ใส่หมวกกันน็อก นั่งรอรถเมล์ร้อนๆ หรือทำงานที่ไม่ได้อยู่ในห้องแอร์ เขาก็ต้องรู้สึกว่า เอ๊ะฉันมีกลิ่นเหงื่อ มีกลิ่นตัว หน้ามัน ซึ่งไม่มีใครอยากดูไม่ดี เราดึงอินไซต์จากผู้ใช้จริงๆ และลงไปทดสอบในสนามจริงว่าสินค้าที่เราพัฒนามันผ่านไหม ถ้าไม่ผ่านก็ต้องกลับมาพัฒนาจนกว่าจะผ่าน   ดังนั้นลูกค้าส่วนใหญ่ที่ใช้สินค้า Cute Press ก็เป็นลูกค้าที่เป็นแฟนคลับ ใช้มาเป็นเวลานาน เพราะรู้สึกว่าแบรนด์ตอบโจทย์เขา มีการควบคุมคุณภาพ พอใช้แล้วแก้ปัญหาได้จริงๆ นั่นเพราะเราเป็นแบรนด์ที่อยากสร้างความมั่นใจ สร้างความสุขในการทำให้ลูกค้าทุกคนมั่นใจที่จะออกไปใช้ชีวิตได้   – กลยุทธ์ดังกล่าวอาจไม่ได้จำกัดแค่ในประเทศไทย แต่รวมถึงประเทศที่มีพื้นที่อากาศใกล้เคียงกับไทยด้วยใช่ไหม ถูกต้อง เพราะความจริง Cute Press ก็มีตลาดต่างประเทศที่ไปเปิดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเมียนมา กัมพูชา สิงคโปร์ แบรนด์มองเป้าหมายไว้ในกลุ่มโซนประเทศที่มีสภาพอากาศคล้ายประเทศไทย เพราะรู้สึกว่าเราเข้าใจไลฟ์สไตล์คนในเขตนี้ดี และมีสูตรของตัวเองที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคนเขตนี้ได้จริง   – ที่มาที่ไปของผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Cute Press ‘Bye Bye Smell Hair and Body Mist’ เป็นอย่างไร และไอเดียเรื่องการกินปิ้งย่างแต่ไม่อยากให้มีกลิ่นติดตัวมาได้อย่างไร ต้องเล่าว่าพอแบรนด์ Cute Press โดดเด่นในเรื่องของการทำสินค้าสำหรับคนที่อยู่ใน Tropical Lifestyle เราก็พบ Pain Point จากกลุ่มลูกค้าว่านอกจากเรื่องหน้ามัน อุดตันง่าย เมกอัพละลาย เรื่องกลิ่นก็เป็นปัจจัยที่บั่นทอนความมั่นใจเช่นกัน เพราะการอยู่ในเขตอากาศร้อนชื้นทำให้มีกลิ่นเหงื่อง่าย มันเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องเจอทุกวัน เช่น พนักงานออฟฟิศที่ต้องออกไปทานข้าวตอนกลางวัน กลับมาก็อาจจะมีเหงื่อออก มีกลิ่นอาหารติดตัว ไปนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างแล้วต้องสวมหมวกกันน็อกที่ใช้มาแล้วไม่รู้กี่คน พอจะไปทำงานต่อหัวจะมีกลิ่นไหม ผมจะเหม็นหรือเปล่า หรือตอนขึ้นรถเมล์ ขึ้นรถไฟฟ้าไปทำงาน คนเบียดกัน เหงื่อออกก็มีกลิ่น ดังนั้นสินค้าที่ตอบโจทย์เรื่องการป้องกันกลิ่นจึงน่าสนใจ และเป็นการแก้ Pain Point สำคัญของลูกค้าเราได้   ทีนี้จากการสำรวจเราพบว่าปัจจุบันคนไทยชอบออกไปกินข้าวนอกบ้าน ซึ่งร้านอาหารที่คนชอบคือปิ้งย่าง ชาบู ซึ่งปัญหาที่คนชอบกินปิ้งย่างหรือชาบูพบก็คือเขาไม่อยากกินตอนกลางวันเพราะกลัวเรื่องกลิ่น แล้วจะไปทำงานต่อไม่ได้ ทีมพัฒนาของเราก็เลยคิดว่าทำไมต้องมีขอบเขตสำหรับเรื่องการกินปิ้งย่างหรือชาบู มันจึงเกิดเป็นสินค้าในซีรีส์นี้ขึ้นมา เป็นสเปรย์ฉีดผมและผิวที่เราคอลแลบกับ Bar B Q Plaza   – อย่างที่บอกว่าไลฟ์สไตล์คนไทยมักเจอกับเรื่องกลิ่นในรูปแบบต่างๆ ทั้งการกินอาหารประเภทปิ้งย่าง อาหารที่มีกลิ่น หรือการใช้ชีวิตประจำวัน ผลิตภัณฑ์ ‘Bye Bye Smell Hair and Body Mist’ จะช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้ดีขึ้นอย่างไรบ้าง อย่างที่เล่าว่าปัญหานี้อยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคน สามารถติดตัวไว้ใช้ได้ตลอด ตอนเช้าผจญฝุ่นควันก่อนมาถึงออฟฟิศ เริ่มรู้สึกว่าตัวไม่หอมก็ฉีดได้ ตอนกลางวันอยากกินปิ้งย่าง หยิบขวดหนึ่งไปพร้อมกันก็ได้   เราอยากบอกว่าผลิตภัณฑ์ ‘Bye Bye Smell Hair and Body Mist’ ได้รับการทดสอบจากทีมงานจริงด้วย คือเราให้ทีมที่พัฒนาสินค้าไปกินปิ้งย่างจริง แล้วก็ใช้สเปรย์จริง แก้ไขจนกว่าจะกลบกลิ่นได้ หรืออย่างเรื่องการสวมหมวกกันน็อกเวลานั่งวินมอเตอร์ไซค์ ทีมงานก็ต้องไปจำลองการใช้ชีวิตจริงๆ ของคนทั่วไปว่าในหนึ่งวันใช้ชีวิตอย่างไร เจออะไรบ้าง   ผลิตภัณฑ์เราค่อนข้างตอบโจทย์ทุกเพศ ทุกวัย ใครก็ใช้ได้ ตัวผลิตภัณฑ์ออกแบบมาให้ไม่ใหญ่มาก พกพาได้ มันจะมีเทคโนโลยี Odor Clear กำจัดกลิ่น และมีเทคโนโลยี Scent Lock ที่จะให้ความหอมติดทนยาวนาน 48 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีวิตามินและออยล์ต่างๆ ที่ช่วยบำรุงผมและผิวไปด้วย   – สิ่งที่น่าสนใจคือการได้มาจับมือกับ Bar B Q Plaza การร่วมมือกันครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง เราดีใจและภูมิใจมาก เพราะทั้ง Cute Press และ Bar B Q Plaza เป็นแบรนด์ไทยเพื่อคนไทยเหมือนกัน แล้ว Bar B Q Plaza ค่อนข้างเป็นผู้นำในตลาดอาหาร ทุกคนต้องเคยผ่านการกินมาในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง แล้วทั้งสองแบรนด์อยู่มานานเหมือนกัน มีสาขาค่อนข้างเยอะ เราจึงมองว่ามันค่อนข้างเป็นกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ทั้งคู่ เพราะ Cute Press ก็ช่วยแก้ Pain Point ให้คนกินปิ้งย่างว่าสามารถกินเมื่อไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นวันหยุดหรือตอนเย็นเท่านั้น และลูกค้า Bar B Q Plaza ก็ได้มารู้จักกับ Cute Press ด้วยว่าเรามีสินค้าความหอมที่ตอบโจทย์ให้ทานปิ้งย่างแล้วเดินออกจากร้านอย่างมั่นใจได้ ฉะนั้นในเชิงกลุ่มเป้าหมาย ทั้งสองแบรนด์ถือว่าคอลแลบกันอยู่แล้ว   นอกจากนี้ทั้งสองแบรนด์ก็มีคาแรกเตอร์ที่เข้ากัน Bar B Q Plaza ก็จะสร้างความสุขและเป็นแบรนด์ที่มีมูฟเมนต์ในตลาด หรือในเชิงของการทำแบรนดิ้ง มีเมสเสจออกมาที่อยากทำให้คนที่มาทานอาหารมีความสุข ซึ่งก็ตรงกับสิ่งที่ Cute Press อยากสร้างความสุข อยากสร้างโมเมนต์ดีๆ ให้กับทุกคน เพื่อสร้างความมั่นใจให้คนออกไปใช้ชีวิตในเขตอากาศร้อนชื้นอย่างมีความสุข   – แผนการในอนาคตของแบรนด์ในแง่ของการจับมือกับแบรนด์อื่นๆ เพื่อพัฒนาสินค้าตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สะดวกสบายมากขึ้นของคนไทยต่อไปเป็นอย่างไร การจับมือกับ Bar B Q Plaza ในครั้งนี้ เหมือนเป็นจุดสตาร์ทในการทำงานกับแบรนด์อื่นที่ไม่ใช่แบรนด์บิวตี้ ซึ่งก็ค่อนข้างใหม่และน่าจะเซอร์ไพรส์กลุ่มลูกค้าเหมือนกัน เรามองว่าในเชิงการตลาดมันเป็นมูฟเมนต์ที่ดีในการร่วมมือกับแบรนด์ที่อาจไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน แต่สามารถสร้างสรรค์ให้เกิดสิ่งใหม่และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าของทั้งคู่ ดังนั้นอนาคตก็จะมีการทำงานร่วมกับแบรนด์อื่นแน่ๆ แต่จะออกมาเป็นแนวไหน หรือเป็นสินค้าอะไร อยากให้ติดตามกันอีกที

Others News

Others News

Cookies and use of our website

We may use your information – collected through cookies and similar technologies – to improve your experience on our site, analyze how you use it and assist in our marketing efforts. You can always update your preferences via the Cookie Settings page. We will handle your personal information in line with our Privacy Policy and Term of Use.